วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โปรแกรม ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ

ตัวอย่างโปรแกรม Microsoft Excel 



                                 โปรแกรม Microsoft Excel 







             ไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล (Microsoft Excel) เป็นโปรแกรมประเภทตารางการคำนวณ (สเปรดชีต) พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นโปรแกรมหนึ่งในชุดไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ สำหรับจัดการและคำนวณข้อมูลในรูปแบบตาราง อีกทั้งสามารถจัดทำกราฟ แผนภูมิเพื่อแสดงผลข้อมูลได้ โดยเวอร์ชันล่าสุดคือ ไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล 2013 (Microsoft Excel 2013)

              ไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในด้านการการคำนวณทางคณิตศาสตร์โดยใช้ฟังก์ชันพื้นฐาน บวก ลบ คูณ หาร ยกกำลัง รวมถึงฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ระดับสูง เช่น ตรีโกณมิติ ฟังก์ชันทางสถิติ ฟังก์ชันทางการเงิน สำหรับส่วนที่ถือว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอดของ ไมโครซอฟท์ เอกซ์เซล คือ การใช้งานในรูปแบบของฐานข้อมูล ซึ่งสามารถจัดการฐานข้อมูลที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก คือมีประมาณไม่เกิน 65,000 ตาราง ไม่ว่าจะเป็น ตัวกรอง, การเรียงลำดับข้อมูล (Sort) , คำนวณยอดรวม (Subtotal) และตารางไพวอต (Pivot Table) เป็นคำสั่งสำหรับสรุปข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ดูได้ง่าย สามารถหมุนเปลี่ยนตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถทำกราฟในแบบต่างๆ เช่น เส้นตรง วงกลม กราฟรูปแท่ง กราฟแท่งเทียนที่ใช้กับการวิเคราะห์หุ้นก็ทำได้ กราฟพื้นที่ สามารถทำกราฟต่างๆให้อยู่ในรูปแบบ 2 มิติ หรือ 3 มิติได้ด้วย รวมถึงทำกราฟ 2 ชนิดในรูปเดียวกันได้ด้วย

             ไมโครซอฟท์ เอกซ์เซลเป็นโปรแกรมที่มีอยู่แทบทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถใช้ช่วยในการตัดสินใจได้หลายอย่าง ทั้งการทำตารางข้อมูลต่างๆ แผนภาพ กราฟ และใช้คำนวณทางคณิตศาสตร์ จึงช่วยในการตัดสินใจในการลงทุน หรือตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขและปริมาณ









วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ตัวอย่างโครงงาน

1.ชื่อโครงงาน : อาหารคลีน
   ชื่อบล็อก:http://acrcleanfood.blogspot.com/


2.ชื่อโครงงาน :กระถางต้นไม้กระต่ายน้อย
   ชื่อบล็อก:http://ararabbit.blogspot.com/


3.ชื่อโครงงาน : โครงงานกะลามะพร้าวใส่เทียนหอม
   ชื่อบล็อก:http://candlecocoshell.blogspot.com/

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่5

1.จงบอกความหมายของโครงงาน

โครงงาน (Project Approach) คือ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ทำการศึกษาค้นคว้าและฝึกปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นๆ ไปใช้ในการศึกษาหาคำตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนำและให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดำเนินงานตามแผน กำหนดขั้นตอนการดำเนินงานและการนำเสนอผลงาน ซึ่งอาจทำเป็นบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
โครงงาน คือ การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้ง
หรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากขึ้น โดยใช้กระบวนการ วิธีการที่ศึกษาอย่างมีระบบ เป็นขั้นตอน
มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆ



2.โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร

หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

3.โครงงานคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ


3.1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)

เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ

3.2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)

เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนำไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สำหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D

3.3. โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment)

เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคำอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น

3.4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application)

เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สำหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำงานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย

3.5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)

เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคำนวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ

4.จงบอกขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

          4.1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
          4.2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 
          4.3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน 
          4.4. การลงมือทำโครงงาน 
          4.5. การเขียนรายงาน 
          4.6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน

ที่มา1.http://www4.srp.ac.th
       2.http://www.acr.ac.th
       3.http://www.acr.ac.th

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 3 บริการบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


ใบงานที่ 3 บริการบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ให้นักเรียน ค้นหาบริการบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3 อย่าง
พร้อมข้อมูล + รูปภาพประกอบ + ตกแต่งให้สวยงามค่ะ


1. เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)


เวิลด์ไวด์เว็บ หรือเครือข่ายใยแมงมุม เหตุที่เรียกชื่อนี้เพราะว่าเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเรื่อยๆ เวิลด์ไวด์เว็บ เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในการเรียกดูเว็บไซต์ต้องอาศัยโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ในการดูข้อมูล เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น โปรแกรม Internet Explorer (IE) , Netscape Navigator




2. จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) 




                            







การติดต่อสื่อสารโดยใช้อีเมลสามารถทำได้โดยสะดวก และประหยัดเวลา หลักการทำงานของอีเมลก็คล้ายกับการส่งจดหมายธรรมดา นั้นคือ จะต้องมีที่อยู่ที่ระบุชัดเจน ก็คือ

อีเมลแอดเดรส (E-mail address)

องค์ประกอบของ e-mail address ประกอบด้วย

1. ชื่อผู้ใช้ (User name)

2. ชื่อโดเมน

Username@domain_name

การใช้งานอีเมล สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ

1. Corporate e-mail คือ อีเมล ที่หน่วยงานต่างๆสร้างขึ้นให้กับพนักงานหรือบุคลากรในองค์กรนั้น เช่น u47202000@dusit.ac.th คือ e-mail ของนักศึกษาของสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เป็นต้น

2. Free e-mail คือ อีเมล ที่สามารถสมัครได้ฟรีตาม web mail ต่างๆ เช่น Hotmail, Yahoo Mail, Thai Mail และ Chaiyo Mail




3. บริการโอนย้ายไฟล์ (File Transfer Protocol)

                              

                          


เป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายไฟล์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การโอนย้ายไฟล์สามารถแบ่งได้ดังนี้ คือ

1. การดาวน์โหลดไฟล์ (Download File ) การดาวน์โหลดไฟล์ คือ การรับข้อมูลเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ในปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่จัดให้มีการดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีเช่น www.download.com

2. การอัพโหลดไฟล์ (Upload File) การอัพโหลดไฟล์คือการนำไฟล์ข้อมูลจากเครื่องของผู้ใช้ไปเก็บไว้ในเครื่องที่ให้บริการ (Server) ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น กรณีที่ทำการสร้างเว็บไซต์ จะมีการอัพโหลดไฟล์ไปเก็บไว้ในเครื่องบริการเว็บไซต์ (Web server ) ที่เราขอใช้บริการพื้นที่ (web server) โปรแกรมที่ช่วยในการอัพโหลดไฟล์เช่นFTP Commander

แหล่งที่มา

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่2 การใช้งาน web browser

วิธีการใช้งาน Internet Explorer เบื้องต้น



บทความอธิบายการใช้งานโปรแกรม Internet Explorer 7.0 การใช้คำสั่ง เมนูต่างๆ สำหรับดูข้อมูลในเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต

IE (ไออี) หรืออินเตอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ โปรแกรมสำหรับดูข้อมูล ค้นหาข้อมูลต่างๆ ใน อินเตอร์เน็ต รุ่นที่มากับ Windows Vista จะเป็นรุ่น 7.0 ซึ่งก็ได้มีการ พัฒนาความสามารถต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะความสามารถด้านการป้องกันโปรแกรมประเภทสปายแวร์ที่จะเข้ามาก่อกวนคอมพิวเตอร์

การเข้าโปรแกรม
1. คลิกปุ่ม Start>All Programs>>Internet Explorer











ส่วนประกอบของหน้าจอโปรแกรมใน Internet Explorer 7
1. ชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเยี่ยมชมอยู่ขณะนั้น
2. ปุ่มควบคุมหน้าจอโปรแกรม ปุ่มย่อหน้าจอ ปุ่มขยายเต็มจอภาพและปุ่มปิดหน้าจอโปรแกรม เมื่อไม่ต้องการใช้งานแล้ว
3. ปุ่ม Previous และ Next สำหรับย้อนกลับไปดูหน้าจอเว็บไซต์ก่อนหน้านั้นที่เคยดูมาแล้ว หรือเว็บหน้าถัดไป
4. ช่อง Address สำหรับพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการเข้าเยี่ยมชม เช่น www.honda.co.th
5. Live Seach สำหรับพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการค้นหา เช่น จะค้นหาเกี่ยวกับรถ Toyota ก็พิมพ์ Tayota ลงไป แล้วกด Enter
6. Favorites แสดงรายชื่อเว็บไซต์ที่ได้บันทึกเก็บไว้
7. เพิ่มชื่อเว็บไซต์เข้าไปใน Favorites
8. Tab การแสดงเว็บเพจใน IE 7.0 จะใช้แท็ปแสดงแต่ละหน้าเว็บเพจ ไม่ได้เปิดเป็น window หรือหน้าจอใหม่เหมือนเวอร์ชั่นก่อนนี้ เมื่อคลิกที่แท็ป ก็จะแสดงข้อ มูลในเว็บเพจนั้นๆ
9. ปุ่ม X ไว้ปิดแท็ป
10. ปุ่มเปิดแท็ปใหม่
11. ปุ่ม Print สำหรับพิมพ์หน้าจอเว็บเพจ ออกทางเครื่องพิมพ์
12. ปุ่ม Page สำหรับการแสดงหน้าจอเว็บเพจแบบต่างๆ
13. Tools สำหรับการเรียกคำสั่งปรับแต่งการใช้งาน Internet Explorer เพิ่มเติม
14. เว็บเพจที่ถูกเปิดอ่านหรือเว็บไซต์ที่กำลังเข้าเยี่ยมชมอยู่ในขณะนั้น
15. ในเว็บเพจก็มีทั้งภาพ ข้อความ และภาพเคลื่อนไหว
16. ส่วนใดที่เลื่อนลูกศรไปชี้แล้วลูกศรเปลี่ยนเป็นรูปมือ แสดงว่าเป็นลิงค์ที่มีการเชื่อมโยงไปหา เว็บเพจหรือเว็บไซต์อื่นๆ ก็สามารถคลิกเพื่อตามไปอ่านข้อมูล ได้
17. ในเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะมีการจัดข้อมูลเป็นหมวดหมู่ มีหัวข้อให้คลิกเลือกเพื่อดูข้อมูล อาจ จะอยู่ด้านบนหรือเป็นคอลัมน์อยู่ด้านซ้ายมือ
18. Scroll Bar แถบเลื่อนดูข้อมูล ที่อยู่ด้านล่าง


อ้างอิง 1.http://siamebook.com


วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่1


โบงานที่1

1.อินเทอร์เน็ตหมายถึงอะไร?



อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

2.Web Browser หมายถึงอะไร?



เว็บเบราว์เซอร์ (web browser) เบราว์เซอร์ หรือ โปรแกรมดูเว็บ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ


3.ตัวอย่างWeb Browser จำนวน5โปรแกรม

3.1 Netscape

Netscape คือ นายจิม คลาร์ค อดีตผู้ก่อตั้งบริษัท Silicon Graphic และนายมาร์ค แอนเดรสเซ่น ผู้คิดค้นเว็บบราวเซอร์ตัวแรกของโลกคือ โมเสค (Mosaic) ได้รวมตัวกันตั้งบริษัทNetscape ออกเว็บบราวเซอร์ที่ดีกว่า Mosaic คือ Netscape Navigator สมัยประมาณปี 1994 ตอนนั้น แทบทุกคนในโลกที่ใช้งานเว็บ ก็ต้องใช้ Netscape Navigator ส่งผลให้ไมโครซอพท์ต้องเต้นพอสมควร เพราะว่าเริ่มต้นเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตช้าไป เลยทุ่มสุดตัวสร้างInternet Explorer ขึ้นมาแข่ง และใช้กลยุทธยัดเยียด IE ไปกับวินโดว์ 95 ในตอนนั้น เพื่อตัดโอกาสของ Netscape เพราะว่า Netscape Navigator นั้นฟรีถ้าใช้เอง แต่ถ้าใช้ในบริษัทต้องซื้อ ทำให้เป็นคดีความกันใหญ่โต เพราะ Netscape ฟ้องไมโครซอพท์ในคดีผูกขาด ซึ่งตอนนี้คดีก็ยังไม่จบนะครับ แต่ว่า Netscape จบไปแล้ว พอโดนไมโครซอพท์ตีหนักๆ เข้า บริษัทเล็กๆ อย่าง Netscape ก็อยู่ไม่ไหว บริษัท America OnLine ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ก็เข้ามาซื้อบริษัท Netscape ไป
แต่ Netscape Navigator ยังไม่ตายครับ ช่วงปี 1997-1998 เมื่อ Netscape รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้แน่ เลยตัดสินใจเปิดซอร์สโค้ดของ Navigator ไปเลย Netscape ตั้ง Mozilla.org ขึ้นมาเป็นทีมพัฒนาเว็บบราวเซอร์ตัวใหม่ชื่อ Mozilla คำว่า Mozilla นั้นเป็นชื่อเล่นของ Netscape Navigator ที่เรียกกันภายใน ตัว M หมายถึง Mosaic ซึ่งเป็นเว็บบราวเซอร์ตัวแรกที่ทีมงานเคยสร้าง ส่วน ozilla ก็มาจาก Godzilla สัตว์ประหลาดญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันดี รวมกันกลายเป็น Mozilla นั่นเอง (แต่ถ้าหมายถึงทีมพัฒนา Mozilla ต้องมี .org ตามเสมอ)
ทีมงาน Mozilla.org และนักพัฒนาอิสระจากทั่วโลก ก็ได้ร่วมกันสร้าง Mozilla ขึ้นมาใหม่ ให้มีความสามารถมากกว่าเดิม ใช้เวลาหลายปี ตอนนี้ออกมาถึงรุ่น 1.4 แล้วครับNetscape เอง (ที่ตอนนี้เป็นของ AOL ไปแล้ว) ก็ได้นำเอาซอร์สโค้ดของ Mozilla มาพัฒนาต่อบางส่วน จนกลายมาเป็น Netscape 6 และ Netscape 7 ในทุกวันนี้


3.2 Internet Explorer

โปรแกรม Internet Explorer เรียกย่อๆ ว่า IE เป็นโปรแกรมเบราเซอร์ที่ใช้ในการเปิดเว็บเพจในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็น Application Software ที่ผลิตโดยบริษัท Microsoft
โปรแกรมอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ (Internet Explorer) ซึ่งเป็นโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ของไมโครซอฟท์ ได้มาแทนที่โปรแกรมเน็ตสเคปเนวิเกเตอร์ (Netscape Navigator)ซึ่งหลายคนอธิบายความสำเร็จดังกล่าวว่า เกิดจากการที่ไมโครซอฟท์ได้รวมเอาอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ไว้ในระบบ ปฏิบัติการวินโดวส์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด. ส่วนผู้ที่มีความเห็นขัดแย้งกล่าวว่า การรวมเอาอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ไว้ในระบบปฏิบัติการนั้น สำคัญน้อยกว่าการที่ไมโครซอฟท์ได้พัฒนาความสามารถของอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอ เรอร์ จนถึงระดับที่เทียบได้กับเน็ตสเคปเนวิเกเตอร์
ในฐานะสถาปนิก ซอฟต์แวร์ผู้วางยุทธวิธีการขายสินค้าของไมโครซอฟท์ บิลล์ เกตส์ได้เพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้าไปอย่างกว้างขวาง และเมื่อสินค้านั้น ๆ ครองตำแหน่งสินค้ายอดนิยมในบรรดาประเภทเดียวกัน เกตส์ก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันตำแหน่งนั้นไว้ การตัดสินใจทางยุทธวิธีของเกตส์และของผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์คนอื่น ๆ ทำให้หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมการแข่งขันทางการตลาดจับตามอง และในบางกรณีถูกวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่นกรณีที่ีไมโครซอฟท์ถูกฟ้องร้องในข้อหาผูกขาดทางการตลาดจากการรวมเอาอิน เทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ไว้ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นต้่น
ก่อนจะไปเรื่องคุณสมบัติของไฟร์ฟอกซ์ ต้องแนะนำตัวเจ้า Mozilla Firefox สักนิดนึงก่อน ไฟร์ฟอกซ์นั้นในต่างประเทศมีชื่อเรียกสั้นๆว่า Fx fx หรือ ff แต่ในไทยหลายคนก็เรียกจิ้งจอกไฟ หมาย่าง จิ้งจกย่าง จิ้งจกไฟ บลาๆ ก็สุดแล้วแต่จะเรียกกัน


3.3   Firefox

Firefox เป็นเบราว์เซอร์ประเภทกราฟิก หลายคนคงคิด อ้าว! แล้วเบราว์เซอร์แบบที่ไม่เป็นกราฟฟิกเป็นยังไง มันก็เป็นแบบตัวหนังสืออย่างเดียวเลยไง ซึ่งเจ้าเบราว์เซอร์ตัวแรกของมนุษยชาติก็คือ WorldWideWeb ลองดูตามรูป มีแต่ตัวหนังสือเพียบ ท่าทางเล่นแล้วจะเหนื่อย (เห็นแล้วสงสาร geek ในสมัยนั้นจริงๆ) ไฟร์ฟอกซ์ตัวนี้ได้ถือกำเนิดจากผลพวงของสงครามเบราว์เซอร์ในทศวรรษที่ 90 โดยตัวไฟร์ฟอกซ์ได้แยกตัวออกมาจาก Mozilla Suite หรืออีกชื่อหนึ่งคือ SeaMonkey ซึ่ง SeaMonkey ก็เป็นชุดโปรแกรมอินเทอร์เน็ตที่มี เว็บเบราว์เซอร์ โปรแกรมอีเมล์ โปรแกรมสร้างเว็บ โปรแกรมไออาร์ซี แอดเดรสบุก แต่เป็นเพราะ Seamonkey นั้นมีขนาดใหญ่ Mozilla ก็ได้ลองเปลี่ยนแผนการพัฒนาจากชุดโปรแกรมอินเทอร์เน็ตก็แตกย่อยออกเป็น เว็บเบราว์เซอร์ (Mozilla Firefox) และ โปรแกรมอีเมล์ (Mozilla Thunderbird) เดิมทีนั้นไฟร์ฟอกซ์นั้นไม่ได้ชื่อ Mozilla Firefox ตั้งแต่ต้น ชื่อเริ่มแรกเลยก็คือ Mozilla Phoenix แต่ชื่อดันไปซ้ำกับบริษัท Phoenix Technologies ผู้ผลิต Bios ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราๆท่านๆใช้กันอยู่นี้เอง ในวันที่่ 14เมษายน 2546 จึงต้องยกเลิกชื่อนี้ไป จากนั้นไม่กี่วันทาง Mozilla ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาอีกเป็น Mozilla Firebird ที่ทาง Mozilla อยากได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า Firebird นั้น บางตำนานก็เชื่อว่าคือ Phoenix แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ชื่อนี้ดันไปซ้ำกับโครงการฐานข้อมูลโอเพนซอร์สที่ชื่อว่า FirebirdSQL ในตอนแรกทาง Mozilla ไม่อยากที่จะเปลี่ยนชื่อเท่าไหร่แต่ก็ถูกทาง FirebirdSQL กดดันหนักขึ้นเรื่อยๆจนทาง Mozilla ต้องจำใจยอมปล่อยชื่อ Firebird ไป คราวนี้ Mozillaได้รับบทเรียนมามากมายเกี่ยวกับชื่อ และทาง Mozilla ต้องหาชื่อที่ไม่เป็นปัญหากับโครงการใดๆเลยในโลกนี้ ทีมงานใน Mozilla ช่วยกันคิดชื่อออกมาประมาณ 200 รายชื่อ โดยความหมายต้องไปในทางเดียวกับ 2 ชื่อแรก และในที่สุดก็ได้ชื่อออกมานั้นก็คือ Mozilla Firefox แต่ทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ยังมีปัญหาขึ้นอีกเมื่อทาง Mozilla ได้ไปเจอว่าชื่อ Firefox นั้นมีคนเคยจดแล้ว แต่ด้วยความมานะอดทนของทีมงานและทนายความที่ช่วยกันเจรจา จนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 Mozilla จึงได้ชื่อ Mozilla Firefox ออกมาเป็นของตัวเองในที่สุด และนายเบน กูดเจอร์ ก็ฝากข้อคิดมา ด้วยว่า ควรให้ความสำคัญในขั้นตอนการตั้งชื่อด้วย ควรทำการบ้านมาให้ดีก่อนที่จะตั้งชื่อโปรเจ็คอะไรสักอย่าง มิเช่นนั้นจะเป็นเหมือนกับเขาที่ต้องเปลี่ยนชื่อถึง 2 รอบ

3.4 Google Chrome


Google Chrome คือเว็บเบราว์เซอร์ที่สร้างโดยกูเกิล เหมือนกับ Firefox อ่ะ แต่ เร็ว กว่า สวยกว่า ซึ่งตอนนี้ก็มาถึงเวอชั่น 4 แล้ว ด้วยการใช้งานที่ง่าย ฟรี และติดตั้งได้อย่างรวดเร็วในไม่กี่วินาที ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย
- ช่องแถบสำหรับใส่ที่อยู่เว็บก็ใช้เป็นช่องค้นหาได้ด้วย
- สามารถตั้งเลือกค่าให้บุ๊คมาร์คในแต่ละเครื่องปรับตรงกันได้โดยอัตโนมัติ
- สามารถลากแท็บออกจากเบราว์เซอร์เพื่อสร้างหน้าต่างใหม่ และรวมหลายๆ แท็บไว้ในหน้าต่างเดียว
- แท็บทุกแท็บที่กำลังใช้ ทำงานอย่างอิสระในเบราว์เซอร์
- มีโหมดไม่ระบุตัวตนสำหรับการเข้าชมแบบส่วนตัว
- มีส่วนขยายให้เลือกติดตั้งเพิ่มลงไปตามต้องการ


3.5    Opera


Opera คืออะไร Opera เป็นเบราเซอร์แบบ All-in-one คือมีทุกอย่างมาให้ครบถ้วนในตัวมัน (มีทั้ง Email Client, IRC client, Feed Reader, BitTorrent และยังมีลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย) Opera เป็นอีกหนึ่ง web browser คล้ายๆ กับ Internet Explorer และ Firefox โดยเดิมที opera เป็น เพียง project หนึ่งเท่านั้น ต่อมาในปี 1995 จึงได้ออกมาก่อตั้งบริษัท ทำเบราเซอร์ขายOpera นั้นเป็น browser ที่โดดเด่นเสมอมา เนื่องด้วยฟังก์ชันที่ก้าวล้ำนำหน้าคนอื่น ความปลอดภัยสูง รวมไปถึงความเร็วสูงด้วย จนในช่วงหนึ่ง Opera ถึงกับโฆษณาว่าเป็น The Fastest Browser เลยทีเดียว


ที่มา

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

My Profile

My Profile



ชื่อ กานต์ คำคูณเมือง ม.5/1 เลขที่ 11

โรงเรียน อัสสัมชัญระยอง

อายุ 16 ปี


ชอบเล่นฟุตบอล



FaceBook: Kan Kkm